หาน้องชิมาเลี้ยงสักตัว
สำหรับผู้ที่กำลังอยู่ในระหว่างการตัดสินใจ ว่าจะซื้อสุนัขพันธุ์ชิวาวามาเลี้ยงดีหรือไม่นั้น มีข้อแนะนำในการซื้อสุนัขพันธุ์ชิวาวานี้ ก่อนอื่นควรเริ่มต้นจากการศึกษามาตรฐานสายพันธุ์ที่ได้รับการยอมรับจากทั่ว โลก สุนัขพันธุ์ชิวาวานั้น อายุโดยเฉลี่ยประมาณ 10 – 15 ปี เพราะฉะนั้นถ้าผู้ที่ไม่ได้ศึกษาทำความเข้าใจมากก่อน อาจต้องเลี้ยงสุนัขที่ไม่เป็นที่ต้องการไปอีก 10 – 15 ปี ในการที่จะเลี้ยงน้องชิได้ดีนั้น ต้องมีความเข้าใจในชีวิตและความเป็นอยู่ของน้องชิ สุนัขทุกตัวต้องการความรัก ความเอาใจใส่ และความเข้าใจจากผู้ที่เป็นเจ้าของด้วย
วัตถุประสงค์ในการเลี้ยง
ก่อน ที่จะตัดสินใจซื้อสุนัขพันธุ์ชิวาวามาเลี้ยง สำหรับน้องชิถือว่าเป็นสุนัขพันธุ์ที่มีขนาดเล็กเลี้ยงง่าย เห่าไม่เก่ง กินน้อย สามารถเลี้ยงในบ้านที่มีเนื้อที่น้อย เช่น คอนโดมีเนียม อพาร์ทเมนท์ เป็นต้น น้องชิเป็นสุนัขที่รักความสะอาดไม่ต้องใช้เวลาในการดูแลมากนัก ถึงแม้ว่าจะเป็นน้องชิขนยาวก็เพียงแค่อาบน้ำ แปรงขนนิดหน่อยเป็นอันเรียบร้อย นอกจากนี้สุนัขพันธุ์ชิวาวายังเป็นสุนัขที่ฉลาด สามารถฝึกหัดง่าย เชื่อฟังคำสั่ง ขี้เล่น จงรักภักดีต่อเจ้าของมาก จนดูเหมือนกับว่าติดเจ้าของ สุนัขพันธุ์ชิวาวาไม่ชอบอยู่ตัวเดียว เวลานายเดินไปไหนมันจะคอยมองดูเจ้านายของมันให้อยู่ในสายตาตลอดเวลา และที่สำคัญสุนัขพันธุ์ชิวาวามีขนาดที่เล็ก สามารถนำพาไปไหนมาไหนได้สะดวก ถือเป็นเสน่ห์เฉพาะตัวของน้องชิ
น้องชิ มีข้อควรระมัดระวังอยู่บ้างคือ สุนัขพันธุ์ชิวาวานี้ไม่ชอบอากาศเย็นและจะมีอาการสั่นเมื่อตื่นเต้นหรือตกใจ ด้วยขนาดที่เล็กและบอบบางจังต้องระวังอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นกับสุนัข และอีกปัญหาหนึ่งก็คือเวลาน้องชิคลอดตรงที่หัวโตเป็นแอปเปิลแต่ตัวเล็ก จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้คลอดยาก ทำให้บางครั้งต้องผ่าออกเพื่อความปลอดภัย ของน้องชิด้วย
การเลือกสุนัขพันธุ์ชิวาวามาเลี้ยงนั้น คือ ถ้าเป็นลูกสุนัขควรจะมีอายุอย่างน้อย 8 สัปดาห์ สุนัขยิ่งอายุน้อย จะยิ่งเลี้ยงยาก และมีปัญหาในการเลี้ยงมาก แต่ถ้าเป็นลูกสุนัขที่หย่านมแล้วและอายุไม่ต่ำกว่า 2 เดือน จะเลี้ยงง่ายกว่า และโอกาสรอดมีมากกว่า เหมาะสำหรับผู้เริ่มเลี้ยงสุนัข
ในการเลือกซื้อ ผู้ซื้อควรตัดสินใจด้วยตัวเองมากกว่าจะเชื่อคำโฆษณาของผู้ขาย และควรเลือกสุนัขที่มีสุขภาพดี ไม่เป็นโรค โดยดูจากลักษณะภายนอก ท่าทาง และอารมณ์
ปัจจัยสำคัญของการเลี้ยงน้องชิ
1. สถานที่
ผู้ที่คิดจะเลี้ยงสุนัขควรจะมีสถานที่หรือบริเวณพอที่สุนัขสามารถจะวิ่งเล่นออกกำลังกายได้บ้าง และจัดเป็นสัดส่วนเพื่อปกป้องข้าวของของผู้เลี้ยงเสียหาย เช่น การกัดแทะ การเยี่ยวรดสิ่งของ การอุจจาระไม่เป็นที่เป็นทาง และการลักขโมยของกิน -..-
2. ความพร้อมของเจ้าของ
เมื่อคิดจะเลี้ยงสุนัขแล้ว เจ้าของทุกๆ ท่านจะต้องมีเวลาให้กับน้องชิด้วย ซึ่งจะเกี่ยวพันถึงความพร้อมของสถานที่ด้วย ถ้าหากไม่มีพื้นที่ถ้าจะให้น้องชิของเราได้วิ่งเล่น แต่เรากลับจับน้องชิไปขังไว้ในกรง ทำให้น้องชิกดดัน แล้วจะได้ยินเสียงเห่าหนวกหูทำให้ละแวกบ้านได้รับความเดือนร้อนไปด้วย และยังส่งผลถึงน้องชิทำให้เราไม่สามารถเห็นความน่ารักของน้องชิตามธรรมชาติได้ ทำให้อุปนิสัยผิดไปจากเดิม แต่ถ้าหากมีความต้องการอยากจะเลี้ยงจริงๆ ก็ต้องมีการจัดแจงเวลาให้เหมาะสม เช่นการพาน้องชิออกไปวิ่งเล่นตามสวนสาธารณะต่างๆ
3. ความรัก
ผู้ที่คิดจะเลี้ยงน้องชิ จะต้องมีความรัก ความจริงใจและเสมอต้นเสมอปลายให้กับน้องชิด้วย บางคนได้ลูกสุนัขมาเลี้ยงเพราะความน่ารัก ในขณะที่ยังเป็นลูกสุนัขจึงนำมาเลี้ยง แต่พอสุนัขเริ่มโตขึ้น ความน่ารักที่ได้มาเหล่านั้นหายไป นิสัยใจคอเปลี่ยนไป รูปร่างโตขึ้นผิดไปจากตอนแรก อาจจะทำให้ความรักที่มีต่อลูกสุนัขตัวเล็กๆ จืดจางลงไป เริ่มไม่สนใจ ปล่อยปะล่ะเลย ดังนั้นผู้ที่คิดจะเลี้ยงน้องชิและสุนัขพันธุ์อื่นๆ จึงควรให้ความรัก ความเอ็นดูความจริงใจกับสุนัขอย่างเสมอต้นเสมอปลายด้วย
4. ความเอาใจใส่
การเลี้ยงน้องชิจะทำให้ต้องมีภาระเพิ่มขึ้น เช่น ต้องเช็ครอยเท้าที่สกปรกตามพื้นบ้าน ต้องแปรงขน อาบน้ำให้ คอยกำจัดเห็บที่รบกวน หรือต้องคอยสนใจสังเกตว่า น้องชินั้นมีสุขภาพอย่างไร ในเรื่องการขับถ่าย ท้องเสียหรือไม่ กริยาท่าทางร่าเริงหรือหงอยๆ ซึมๆ ไม่สบาย การเดิมไม่ถนัด เป็นแผล หรือขาเคล็ดขาหัก สิ่งที่เราสามารถสังเกตว่าน้องชิไม่สบายแบบง่ายๆ คือจมูก ถ้าหากน้องชิมีจมูกแห้งไม่เป็นมัน และถ้าน้องชิของเรานั้นไปกินหญ้า หรือใบตะไคร้ แสดงว่าน้องชิของเรานั้นมีอาการไม่สบาย ต้องช่วยเหลือห้ามปล่อยไว้เด็ดขาด